เคล็ดลับความอร่อย ของอะโวคาโดจากนิวซีแลนด์
“อะโวคาโดทุกลูกในนิวซีแลนด์ ล้วนเป็นผลผลิตจากเกษตรกรในนิวซีแลนด์ทั้งนั้นค่ะ” เจน สโกลาร์ ซีอีโอของอะโวคาโดนิวซีแลนด์ได้ยืนยันเสียงหนักแน่น หลังมีบทความพาดหัวว่า “เหตุผลที่คุณควรหยุดกินอะโวคาโด” ตีพิมพ์ในนิตยสาร New Zealand Herald ว่า นิวซีแลนด์นำเข้าอะโวคาโดมาจากประเทศเม็กซิโก
บทความดังกล่าวสร้างความสับสนให้แก่ผู้บริโภคเป็นอย่างมาก จนทาง New Zealand Avocado เองยังต้องรับสายมากมายที่ผู้บริโภคโทรศัพท์เข้ามาสอบถามถึงข้อเท็จจริงของแหล่งเพาะปลูกของอะโวคาโดที่วางขายในนิวซีแลนด์
เพื่อคลายความสงสัย ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับ New Zealand Avocado ก็คือ
- ประเทศนิวซีแลนด์ไม่นำเข้าอะโวคาโดสดจากที่ใดๆ เลย อะโวคาโดที่มีจำหน่ายในนิวซีแลนด์ล้วนมีคุณภาพเทียบเท่ากับผลผลิตที่ส่งออก และโมเดลธุรกิจของบริษัทก็ยังคำนึงถึงความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
- อะโวคาโดที่มีจำหน่ายในประเทศนิวซีแลนด์ ต้องมีคุณสมบัติที่ผ่านข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของอาหาร ซึ่งหมายความว่า จะต้องไม่มีสารเคมีอันตรายตกค้าง และปลอดภัยต่อการบริโภค
- นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยค้นพบว่า อะโวคาโดที่เพาะปลูกในนิวซีแลนด์ มีคุณค่าทางโภชนการเฉพาะตัว นั่นคือ มีวิตามินบี 6 สูงกว่าสองเท่าของอะโวคาโดที่ปลูกจากพื้นที่อื่นๆ อีกทั้งยังมีปริมาณโฟเลท มากกว่าที่อื่นถึง 20%
“บทความนี้สร้างความเข้าใจผิดมาทีเดียว เพราะไม่ได้พูดถึงด้านที่ดีของนิวซีแลนด์ในวงการอะโวคาโดระดับนานาชาติ เราไม่อยากให้ผู้บริโภคต้องเข้าใจผิดจนหยุดซื้อะโวคาไปเพียงเพราะข้มูลที่ไม่ถูกต้องและไม่ได้ทราบว่าอุตสาหกรรมของเรานั้นประสบความสำเร็จและมีความยั่งยืนขนาดไหน” สโกลาร์กล่าว
สโกลาร์เองมั่นใจว่าผู้บริโภคยังคงนิยมอะโวคาโด และ New Zealand Avocado เองก็ยินดีจะพูดถึงแหล่งเพาะปลูกและความยั่งยืนในอุตสาหกรรมนี้ “จริงๆ แล้ว การมีคำถามเหล่านี้ขึ้นมาก็ดีนะคะ เพราะเราจะได้มั่นใจได้ว่า เมื่อเกิดคำถาม ผู้บริโภคก็จะได้ได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องกลับไป”
ทั้งนี้ ฤดูกาลใหม่ของอะโวคาโดได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อกี่สัปดาห์ที่ผ่านมา คือเริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม ไปจนถึงเดือนเมษายน แต่อะโวคาโดสดก็มีให้บริโภคตลอดปี
“อะโวคาโด นับเป็นอาหารสุขภาพรสชาติอร่อยที่ดีที่สุดอย่างหนึ่ง และยิ่งเป็นอะโวคาโดจากนิวซีแลนด์ก็ยิ่งดี เพราะมีงานวิจัยยืนยันว่าดีต่อสุขภาพเป็นพิเศษ”