สุขภาพของคุณแม่และเด็ก จากการได้รับโฟเลตและวิตามินบี 6 เพียงพอ

อ่าน 1736 ครั้ง

การเลือกรับประทานอาหารให้ได้รับสารอาหารครบถ้วนสมบูรณ์ของคุณแม่นั้น มีผลอย่างมากต่อพัฒนาการของลูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์และคุณแม่ที่กำลังให้นมบุตร เพราะสารอาหารจากอาหารที่คุณแม่เลือกบริโภคนั้น จะส่งโดยตรงเข้าสู่ร่างกายของน้อง ทั้งทางสายสะดือและน้ำนมของคุณแม่ ฉะนั้นคุณแม่จึงควรเลือกบริโภคแหล่งอาหารที่มีสารอาหารหลากหลาย เพื่อทำให้น้อง ๆ แข็งแรงและเจริญเติบโตสมวัย บทความนี้เราจะมาเล่าถึงสารอาหารสองชนิดที่มีบทบาทต่อพัฒนาการน้อง ๆ ซึ่งคุณแม่อาจมองข้ามความสำคัญไป ให้ได้รู้จักกันมากขึ้น ได้แก่ วิตามินบี 6 และโฟเลตครับ

โฟเลต หรือกรดโฟลิค

เป็นวิตามินที่ส่งผลโดยตรงต่อพัฒนาการของระบบประสาทและสมอง เนื่องจากมีหน้าที่ในการแบ่งสารพันธุกรรมทั้ง DNA และ RNA ซึ่งมีผลต่อพัฒนาการของเซลล์ที่มีการเจริญเติบโตไวต่าง ๆ เช่น เซลล์เม็ดเลือด เซลล์ประสาท รวมทั้งระบบการเผาผลาญและใช้งานกรดอะมิโนต่าง ๆ จึงนับได้ว่า โฟเลตเป็นวิตามินที่สำคัญต่อพัฒนาการของเด็กอย่างมาก มีรายงานถึงสภาวะผิดปกติของไขสันหลังในทารกที่เกิดจากมารดาผู้ที่ได้รับโฟเลตไม่เพียงพอในระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตของทารกได้ ฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงต้องมีการวางแผนการมีบุตร โดยเตรียมตัวตั้งแต่ก่อนการตั้งครรภ์ ปรับพฤติกรรมและรูปแบบการรับประทานอาหารให้เพียงพอ

แหล่งอาหารที่ให้โฟเลตในปริมาณที่เพียงพอต่อขนาดการรับประทาน ได้แก่ อะโวคาโด ผักที่มีสีเขียวเข้มต่าง ๆ เช่น บรอคโคลี่ ผักโขม คะน้า หน่อไม้ฝรั่ง ถั่วทุกประเภท ผลิตภัณฑ์จากไข่และนม

วิตามินบี 6

เป็นวิตามินที่มีบทบาทมากมายที่เกี่ยวข้องกับพัฒนาการของเด็ก ทั้งบทบาทต่อระบบการทำงานของการสร้างและสังเคราะห์สารกลุ่มโปรตีนในร่างกาย ทั้งสร้างกล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของร่างกาย บทบาทต่อพัฒนาการโดยตรง ในกระบวนการสังเคราะห์สารสื่อประสาทซึ่งจำเป็นต่อการส่งและรับข้อมูลต่าง ๆ ของกิจกรรมในแต่ละวันซึ่งมีส่วนในพัฒนาการของเด็ก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานประสานระหว่างระบบกล้ามเนื้อและระบบประสาท และยังมีส่วนในกระบวนการสร้างเม็ดเลือด ทั้งเม็ดเลือดขาวที่มีหน้าที่ในการทำลายเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมที่รุกรานเข้ามาในร่างกาย และเม็ดเลือดแดงที่มีหน้าที่ในการขนส่งสารอาหาร รวมทั้งออกซิเจน เพื่อเติมเต็มพัฒนาการทางด้านต่าง ๆ ของร่างกายน้องๆ ให้เป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ

เห็นความสำคัญอย่างนี้ เราสามารถพบวิตามินบี 6 ได้ ในอาหารต่าง ๆ ไม่ยากนัก เช่น อะโวคาโด รวมถึงผักที่มีสัดส่วนแป้งค่อนข้างสูง เช่น มันฝรั่ง ถั่วชิกพี ฟักทอง และแหล่งจากสัตว์ เช่น เนื้อปลาต่าง ๆ เนื้อแดง เครื่องใน เป็นต้น

จะเห็นได้ว่าวิตามินทั้งสองชนิดนั้น มีบทบาทต่อสุขภาพของทั้งคุณแม่และเด็กอย่างมาก การหมุนเวียนเปลี่ยนการรับประทานอาหารให้ครบถ้วนและหลากหลายจึงมีความจำเป็นอย่างมากต่อการรักษาสุขภาพ ซึ่งอะโวคาโดสายพันธุ์แฮส จากนิวซีแลนด์ เป็นอะโวคาโดที่มีการควบคุมคุณภาพในการผลิต ตั้งแต่การปลูก ตลอดจนการขนส่งถึงมือผู้บริโภค อะโวคาโดนี้เป็นแหล่งของวิตามินบี 6 และโฟเลตที่ดี ซึ่งสามารถบริโภคเป็นประจำได้ นอกจากนี้ อะโวคาโดยังสามารถเป็นอาหารฝึกพัฒนาการการรับประทานสำหรับน้องที่ดีอีกด้วย เพราะมีลักษณะเนื้อนิ่มหั่นเตรียมเป็นชิ้นได้ง่าย มีรสสัมผัสที่เคี้ยวได้ง่าย มัน กลิ่นหอม รับประทานได้ง่าย ฉะนั้นการประยุกต์ให้อะโวคาโดเป็นอาหารฝึกพัฒนาการสำหรับเด็กอายุเกิน 2-3 ปีขึ้นไปจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีทีเดียว ในการดูแลสุขภาพของน้อง ๆ ครับ

ประวัติผู้เขียน

พศิษฐ์ คณาศิริชัยนนท์ (นักกำหนดอาหารวิชาชีพ)

วิทยากรนักกำหนดอาหาร เครือข่ายคนไทยไร้พุง, Co-founder บริษัท อีทเวลล์คอนเซปต์ จำกัด และแอดมินเฟซบุ๊คแฟนเพจ “เมื่อวานนี้ทานอะไร”

ประสบการณ์ด้านโภชนศาสตร์คลินิก 10 ปี และเป็นวิทยากรด้านอาหารและโภชนาการมากว่า 7 ปี

 

 

อ้างอิง

  1. Bailey LB, Caudill MA. Folate. In: Erdman JW, Macdonald IA, Zeisel SH, eds. Present Knowledge in Nutrition. 10th ed. Washington, DC: Wiley-Bl

  2. ackwell; 2012:321-42.

  3. Institute of Medicine. Food and Nutrition Board. Dietary Reference Intakes: Thiamin, Riboflavin, Niacin, Vitamin B6, Folate, Vitamin B12, Pantothenic Acid, Biotin, and Choline. Washington, DC: National Academy Press; 1998.

  4. McCormick D. Vitamin B6. In: Bowman B, Russell R, eds. Present Knowledge in Nutrition. 9th ed. Washington, DC: International Life Sciences Institute; 2006.